กยศ กองทุนกู้ยืม

กยศ กองทุนกู้ยืม ไม่จ่ายเท่ากับตัดโอกาส

กยศ กองทุนกู้ยืม ไม่จ่ายเท่ากับตัดโอกาส ในวันนี้ทางเว็บไซต์ของเรานั้น จะมาพูดถึงในเรื่องของ กยศ ทุกคนนั้นรู้กันดีอยู่แล้ว ว่ากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษานั้น ถือว่าเป็นเรื่อง ที่เรียกได้ว่าเหมาะมากๆ สำหรับใครหลายๆคน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อ ให้เด็กขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น สามารถที่จะได้เรียนต่อ 

เรียกได้ว่าเป็นการ เปิดโอกาสให้กับ ใครหลายๆคนเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าหลายๆคนเช่นเดียวกัน เมื่อจบการศึกษาแล้ว ตามที่ตนเองคาดหวัง หรือตามเป้าหมายตนเอง แล้วก็จะไม่ยอมจ่าย หนี้กยศ ซะงั้น เรียกว่าเป็นการทำลายอนาคต ของคนอื่นมากๆเลย 

โดยในวันนี้นั้นเรา ก็จะพาทุกท่านมา ทำความเข้าใจในส่วนนี้ จึงถือว่าเป็นบทความหนึ่ง ที่จะทำให้คุณนั้น ได้เจาะลึกว่ายังมีอีกหลายๆคนนั้น ที่ไม่ยอมจ่ายหนี้ ของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา จนทำให้ใครหลายๆคน เช่นเดียวกันลดโอกาสในการเรียนลง แล้วก็ไม่สามารถที่จะเรียนต่อได้ 

เรียกได้ว่าการที่เรานั้น เพิกเฉยหรือการชักดาบ ก็อาจจะทำลายอนาคตใครหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ตัว ถ้าให้พูดถึงกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ถือว่าเป็นนโยบาย ที่เรียกว่าเปิดโอกาสอย่างมากเลย และเป็นการเปิดอนาคต ให้กับคนที่จะทำงานเลยก็ว่าได้ 

กองทุนที่เปิดโอกาสทางการศึกษา

แน่นอนว่าในการทำงาน ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการที่จะต้อง นำวุฒิการศึกษา หรือว่าต้องมีการศึกษา ในระดับเท่านี้ตามที่บริษัท หรือว่าทางนั้นกำหนด ซึ่งบอกเลยว่าหลายๆคนนั้น ก็ต้องพยายามที่จะเรียน เพื่อที่จะนำวุฒิ ไปสอบเข้าสมัครงาน หรือว่าไปใช้ในการสมัครงานนั่นเอง 

แน่นอนว่าใครหลายๆคน ในช่วงระหว่างเรียนนั้น ค่าใช้จ่ายในช่วงมหาวิทยาลัย หรือว่าตามโรงเรียนก็ตาม ก็ถือว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูง แน่นอนว่าการศึกษานั้น เป็นเรื่องของการลงทุน ด้วยเช่นเดียวกัน แต่บางคนก็กลับไม่ได้ มีเงินจำนวนมากมายขนาดนั้น ก็ต้องทำการกู้ยืมเงิน ในกองทุนกยศนั้นเอง 

เรียกได้ว่าพฤติกรรมชักดาบ ไม่ยอมชดใช้หนี้ ของคนจำนวนหนึ่ง ก็เกิดส่งผลวิกฤติครั้งใหญ่ เรียกว่ากยศนั้น ก็จะมีการติดตามทวงหนี้ย้อนหลัง จากที่เรานั้นจบการศึกษา หรือว่าใช้เงินของกองทุนกยศหมดแล้ว เรียกได้ว่าหลายๆคน ก็มีการติดต่อที่ยาก รวมไปถึงทางเจ้าหน้าที่ ก็มีการประสบปัญหา ด้านการติดตาม และจ่ายเงินคืนด้วยเช่นเดียวกัน 

เรียกว่าล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้นั้น ได้มีการยึดทรัพย์ลูกหนี้กยศ แล้วจำนวนกว่า 1020 รายขณะที่กว่า 20000 รายเตรียมเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางออกอย่างเหมาะสม ซึ่งบอกเลยว่า โดยตลอด 19 ปีที่ผ่านมา ที่มีผู้มายืมเงินในกองทุนนี้ ทั้งหมดประมาณ 4.5 ล้านราย แบ่งเป็นผู้ครบกำหนด ชำระหนี้สินทั้งสิ้น 3.1 ล้านรายนั้นเอง 

ประกอบไปด้วยคนที่กู้ทั่วไป ซึ่งชำระบ้างไม่ชำระบ้าง 2.1 ล้านราย เข้าร่วมไกล่เกลี่ยหนี้ จำนวน 1.2 แสน และถูกดำเนินคดีไปแล้วด้วยถึง 800 เลยทีเดียว และทั้งนี้ทั้งนั้นในปีการศึกษา 2558 กลับพบว่า มีผู้กู้ทั้งรายเก่า และรายใหม่ทั้งหมดกว่า 700 รายเลยทีเดียว 

ซึ่งในจำนวนนี้นั้น เป็นผู้กู้รายใหม่ราว 2000 รายซึ่งถ้าหากให้เรานั้น วัดจากภาพหรือว่าประมวลผลดูแล้ว จะกลับพบว่ามีจำนวนผู้กู้รายใหม่ ลดลงสาเหตุมาจากที่กยศนั้น จำกัดจำนวนผู้ไม่ให้เกิน 200 รายนั้นเอง และอีกทั้งอัตราการเกิด ของประเทศไทยนั้น มีประชากรที่ลดน้อยลงนั่นเอง จึงทำให้นักศึกษา หรือนักเรียนนั้นก็ลดน้อยลงไปด้วย 

โดยบอกเลยว่าในปี 2558 นั้น ก็มีผู้ชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น จากปี 2557 อยู่ประมาณ 2.2 ล้านคน ถือว่าเป็นผลมาจาก การรณรงค์ชำระหนี้ ในโครงการต่างๆด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการจ้างบริษัท ติดตามหนี้ก็จะได้คืนประมาณ 3,500 ล้านบาท 

ซึ่งในปี 2557 ได้เงินมาเพียงแค่ 800 ล้านบาทเท่านั้น เรียกว่าทิศทางของบริษัทนั้น ก็พยายามที่จะเพิ่มระบบ ในการติดตามหนี้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง เรียกได้ว่าหลายๆคนนั้น มักจะมีสาเหตุในการที่จะไม่ชำระเงิน เนื่องจากไม่มีรายได้ ที่เพียงพอต่อการใช้หนี้นั้นเอง 

บางคนก็คิดว่าหนี้กยศนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ก็ได้ เรียกว่ามีการบอกกันต่อๆมา แล้วก็สร้างวาทกรรมผลิตซ้ำ ว่าไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ก็คือไม่ยอมทำอะไรเลย เพราะว่าคิดว่า นั้นถือว่าเป็นเจ้าหนี้ ที่ใจดีที่สุดในโลก จ่ายตอนไหนก็ได้ หรือไม่จ่ายก็ได้นั่นเอง 

แต่บอกเลยมันเป็นความคิดที่ผิด และเป็นการปิดกั้นโอกาส ให้คนที่เรียกได้ว่าต้องการ ที่จะกู้ยืมเงินนั้น ก็ทำให้เขาไม่สามารถที่จะกู้ แล้วก็เอามาเป็นตัวต่อยอด โอกาสในการเรียนของเขาได้เลย ซึ่งจากการติดตาม และชำระหนี้เงินกู้ ก็จะพบว่านักศึกษามากกว่า 80% เลย เห็นด้วยว่าจะให้มีการบันทึก ประวัติผู้กู้ในเครดิตบูโร โดยให้กรมสรรพากรเป็นผู้ติดตามหนี้ 

และหนี้เงินนั้นก็จะมีลักษณะ เหมือนหนี้ภาษีอากร ค้างที่เจ้าหน้าที่สามารถที่จะบังคับ อายัดยึดทรัพย์ ขายทอดตลาดได้นั่นเอง โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้อง เข้าสู่กระบวนการของศาลเลยนั่นเอง บอกเลยว่ามันไม่จ่าย ก็ถือว่าเป็นการทำลาย อนาคตคนอื่นมากๆเลย ก็เรียกได้ว่ามีลูกหนี้กยศ หลายๆคนเลยมองว่า การชำระหนี้นั้น เป็นหน้าที่ทุกคนพึงกระทำ 

แต่ว่าเราก็ต้องบริหารจัดการเงินด้วยเช่นเดียวกัน อย่างกรณีตัวอย่างมีลูกหนี้กยศท่านหนึ่ง ได้มีการให้ข้อความบันทึกข้อความไว้ว่า การรายการชำระหนี้ทั้งสิ้น 15 ปีนั้น เรียกว่าเราจะจ่ายแบบไม่ต้องคิดมาก แค่นึกถึงโอกาสที่ได้รับจากตรงนี้แล้ว ก็จะมองทางด้านโอกาสการศึกษา ว่าคนคนนั้นที่เข้ามากู้หนี้ ในส่วนของกยศนั้น ก็จะได้รับสิ่งดีๆ เหมือนเรากลับไปการไม่จ่าย ก็เหมือนทำลายอนาคตคนอื่นโดยตรง 

เรียกว่าถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆเลย ที่เป็นความคิดแบบนี้ แต่เชื่อแน่นอนว่าความคิดแบบนี้นั้น น้อยกว่าการที่บอกว่าไม่ต้องจ่ายเลยจะดีกว่า โดยมันถือว่าเป็นอะไร ที่เราต้องค่อยๆปรับความคิดกันไป เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะถ้าหากใครนั้น กู้หนี้แล้วไม่คืนของกยศนั้น 

แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา อย่างแรกๆเรานั้นก็จะถูกติดตามหนี้ แล้วก็แน่นอนว่าเราคง ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และอีกอย่างมันยังเป็นการตัดอนาคต แล้วก็งบประมาณที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามันไม่ค่อย ที่จะเพียงพอสักเท่าไหร่ ต่อคนรุ่นหลังหรือเยาวชนรุ่นต่อไป 

บางคนมันก็มีเหตุผลบ้าง ต่างๆนานาไม่ว่าจะเป็น เหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ หรือว่าเหตุผลทางด้านครอบครัว อะไรก็ตามแต่ เรียกว่าเอามาอ้างเป็น สารพัดสารเพ แต่อย่าลืมว่าในตอนนี้ เรายืมเขามานาน เราก็ต้องเตรียมใจมาแล้ว เรียกว่าเรานั้น ก็ต้องคืนเงินด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ว่าหลายๆคนมันไม่ได้คิดในส่วนนี้นั่นเอง 

หลังจากมีข่าวว่า กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษานั้น มีการร่วมมือกันกับกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ก็จะมีการดำเนินชีวิตทรัพย์ลูกหนี้ กยศหลังจากไม่ยอมชดใช้หนี้ ตามสัญญาซึ่งการยึดทรัพย์นั้น ถือว่าเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ทางกฎหมายมาใช้ นโยบายใหม่ของกยศแต่อย่างใด แต่ว่าถือเป็นขั้นตอนท้ายสุด 

เพราะว่าบางคนนั้น ก็ได้มีการไกล่เกลี่ยกัน มานานอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถชำระหนี้ ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดนั่นเอง เรียกว่าก็จำเป็นที่จะต้องมีการยึดทรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หลายๆคนก็มองว่า มันไม่ยุติธรรมว่าทำไมต้องยึดทรัพย์คนนั้นอาจจะขาด 

จะรู้หรือไม่ว่าการที่คนอื่นขาดแคลนนั้น เขานั้นได้รับการศึกษาไปแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ได้ต่อยอดมากเท่าที่ควร ซึ่งบอกเลยว่ามัน เป็นเรื่องที่พูดกันยากมากๆเลย ต้องอาศัยความเข้าใจกันแล้ว ก็ต้องมีการพิจารณา แต่ว่าถ้ามันถึงที่สุด แล้วก็ควรที่จะทำการยึดทรัพย์ ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะชำระหนี้ ได้ตามกำหนดนั่นเอง 

ซึ่งนอกจากนี้ทางกยศ ก็จะมีการหาโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นให้ชำระหนี้ คืนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่ในปี 2561 นี้เองก็มีการนำรายชื่อ ผู้ค้างชำระตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบันนั้น มาเข้าสู่ระบบข้อมูลเครดิตบูโรด้วย ถืออว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆเลย 

แน่นอนว่าใครหลายๆคน อาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ สำหรับใครที่เป็นหนี้กยศอยู่ แต่ทางให้มองในมุมภาพรวมแล้ว แน่นอนว่าทำแบบนี้นั้น มันจะช่วยลดปัญหาในเรื่อง ของคนที่ค้างชำระนานๆนั่นเอง เรียกได้ว่าเราก็ต้องมอง ถึงผลระยะยาวด้วยเช่นเดียวกัน 

และหลายคนนั้นเป็นหนี้ กยศ หลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมที่จะจ่ายเงินคืนสักที เมื่อได้งานทำแล้ว แต่ก็กลับละเลยมองว่า มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่จำเป็นต้องจ่ายก็ได้ บอกได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด เราควรใส่ใจไปถึง เรื่องของภาพรวมของสังคมด้วยเช่นเดียวกัน ก็ถือเป็นอีกอย่างหนึ่ง ที่สังคมนั้นจัดตั้งขึ้นมา ให้เรานั้นสามารถที่จะต่อยอด เรื่องการศึกษาต่อไปได้ 

สำหรับใครที่เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เราต้องมองเห็นในส่วนนี้ด้วย สำหรับใครที่กู้มาแล้ว ก็คงรู้ดีว่าในช่วงเวลานั้น ที่เรานั้นไม่มีเงินเรียน แต่ว่ากยศก็ยังถือว่าเป็นตัวช่วยหนึ่ง ที่ทำให้เรานั้นสามารถที่จะเปิดกว้าง โอกาสทางการศึกษาของเราได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมนึกถึง ใจเขาใจเราเป็นที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

สนับสนุนเนื้อหาโดย : Joker Slot

คลิกที่นี่เพื่อสมัคร

Last Update : 23 กรกฎาคม 2020 (ข้อมูลล่าสุดปี 2022)